วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ดอกทิวลิป (Tulip)




ชื่อสามัญ : tulip
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tulipa spp. L.
ตระกูล :  Liliaceae

ทิวลิป (Tulip)

      เป็นชื่อสามัญของพันธุ์ไม้หัว ที่ออกดอกในฤดูใบไม้ผลิ ถ้าเราจะกล่าวกันถึง ต้นหรือดอก “ทิวลิป”
ก็จะเหมือนๆ กับการพูดถึง “กล้วยไม้” หรือ “กุหลาบ” อย่างนั้นเอง เพราะชื่อของทิวลิป กล้วยไม้ และกุหลาบ เป็นคำสามัญนามที่ไม่ได้มีจัดแยกประเภทกันว่า เป็นต้นไม้หรือดอกไม้อย่างไหน พันธุ์ไหน หรือชนิดไหน พันธุ์พืชแต่ละอย่าง หรือแต่ละนามนี้ ต่างก็มีสายพันธุ์ต่างๆ ที่แตกแขนงออกไปเป็นพันธุ์ (Species) เป็นชนิด (Variety)

ลักษณะ

      ทิวลิปเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว รูปใบเล็กเรียวยาว ปลายใบแหลม เส้นแขนงใบจะเป็นแนวขนานไปตามความยาวของใบ และเรียวลู่ไปรวมกันที่บริเวณปลายใบ ใบแต่ละใบจะออกสลับทิศทางตรงข้ามกัน ต้นหนึ่งๆ จะออกใบประมาณ 3-4 ใบ โดยปรกติทิวลิปจะมีขนาดสูงระหว่าง 12-18 นิ้ว ซึ่งก็ต้องแล้วแต่พันธุ์และชนิดของทิวลิปแต่ละอย่าง ดอกของทิวลิปก็เช่นเดียวกัน มีหลายแบบ หลายสี และหลายขนาด แต่โดยปรกติดอกทิวลิปจะเป็นดอกไม้รูปถ้วย ยามบานไม่บานแฉ่ง แต่จะบานเพียงแค่แย้มๆ กลีบออก ให้รู้ว่าเป็นดอกทิวลิปที่บานแล้ว แต่อย่างบายแฉ่งก็มีบ้าง เหมือนกัน เช่น พวกดอกทิวลิปซ้อนหลายๆ ชั้น ปรกติดอกทิวลิปจะมีกลีบดอกซ้อนกันเพียง 2 ชั้นๆ ละ 3 กลีบ กลีบดอกของทิวลิปมีสีสันต่างๆ มากมายหลายเฉดสี นับตั้งแต่สีแสด แดง ส้ม เหลืองเข้ม เหลือง เหลืองอ่อน ชมพู ขาว และสีสลับลายหลายอย่าง มีทั้งสีเดียวล้วนๆ และสีผสมในดอกเดียว หรือที่เรียกว่า ”Broken Tulips” เกสรผู้เป็นสีเหลืองอ่อน หรือขาวเป็นแท่งรูปหัวศรมี 6 เส้น เกสรเมียมีขนาดโตกว่าเกสรผู้ อยู่กึ่งกลางเกสรผู้ เป็นลักษณะแท่งรูปสามเหลี่ยมยาว 2 - 2.5 เซนติเมตร ( ซึ่งมีขนาดยาวไล่เลี่ยกับเกสรผู้ ) ปลายเกสรเมียแต่ละเหลี่ยม งอลงเป็นสามแฉก ส่วนที่ปลายเกสรผู้บางพันธุ์อาจจะเป็นติ่งสีน้ำตาลเข้ม หรือสีดำก็มี





การปลูกดอกทิวลิป

               ดอกทิวลิป สามารถปลูกได้เฉพาะพื้นที่ ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นเท่านั้น แต่จากการทดลองปลูกทิวลิปที่ ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงจังหวัดเชียงราย สำนักส่งเสริมการเกษตรเขต 6 กรมส่งเสริมการเกษตร พบว่าทิวลิปที่สามารถนำมาปลูกในบ้านเรามี 20 สายพันธุ์ แต่ในครั้งนี้ปลูกเพียง 6 สายพันธุ์ คือ Christmas Sweet (สีขาว) LLe de Srance (สีแดง) Aaske (สีชมพู) Leen Vd Nark (สีแดงเข้ม) Negrita (สีม่วง) และ Strong gold (สีเหลืองทอง)


               ตามปกติทิวลิปจะเจริญได้ดีใน อุณหภูมิที่เหมาะสมเฉลี่ย 18-20 องศาเซลเซียส ใช้ระยะเวลาในการปลูก 39 วัน ดอกจึงจะบาน เมื่อดอกบานแล้วจะสามารถอยู่ได้นานเพียง 7 ถึง 15 วัน....หากนำลงไปจากดอยดอกก็จะอยู่ได้เพียง 1 สัปดาห์ เท่านั้น สำหรับดอกทิวลิปบานที่ลานผาหม่นเต็มที่ในช่วงวันที่ 16 ธันวาคม และหากมีการควบคุมแสงอุณหภูมิได้อย่างเหมาะสมก็จะทนอยู่ในแปลงได้ 10 วัน ถึง 2 สัปดาห์ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ นายไชยณรงค์ สวยงาม นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูง ดอยผาหม่น ผู้เชี่ยวชาญการปลูกทิวลิปและลิลลี่ ซึ่งเคยผ่านการศึกษาจากประเทศฮอลแลนด์ โทร. 0-5367-8202

การปลูกทิวลิปในเขตกรุงเทพ


            เนื่องจากกรุงเทพมีสภาพอากาศร้อน จึงต้องปลูกทิวลิปในโรงเรือนที่ใช้ตาข่ายพรางแสง 60 เปอร์เซ็นต์ มามุงหลังคาถึง 2 ชั้น ด้านข้างโรงเรือนก็ใช้ตาข่ายพรางแสง 2 ชั้นเช่นกัน แต่จะเปิดให้สามารถระบายอากาศได้ ส่วนด้านในโรงเรือนจะควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 25-26 องศาเซลเซียส โดยติดตั้งสเปรย์พ่นหมอกไว้ใต้หลังคา และติดตั้งพัดลมไว้ด้านข้าง เพื่อเปิดพ่นความเย็นในโรงเรือน

ต้องปลูกทิวลิปในตระกร้าพลาสติก ใช้ขุยมะพร้าวสับเป็นวัสดุปลูก วางหัวพันธุ์ลงบนขุยมะพร้าว แล้วโรยทับด้วยขุยมะพร้าวอีกชั้นหนึ่ง รดน้ำให้ชุ่ม นำไปวางเรียงกันเป็นแถวยาว ดูแลรดน้ำ 3 วันต่อครั้ง เพื่อให้ขุยมะพร้าวมีความชื้นที่เหมาะสม ประมาณ 8 เดือน ต้นทิวลิปก็จะทยอยออกดอก ภายในโรงเรือนซึ่งต้องพ่นสเปรย์หมอกอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้หัวพันธุ์มีโอกาสเน่าได้ง่าย เกษตรกรจึงทำหลังคาโค้งคลุมไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันโรคหัวเน่า และไม่ใช้ปุ๋ยหรือสารเคมีบำรุงเพื่อเร่งการเจริญเติบโต ดอกทิวลิปที่ได้จึงปลอดสารพิษ 







Credit:

http://www.the-than.com/FLower/F/02.html
http://my.dek-d.com/kurama1412/blog/?blog_id=10045821%20%20%A4%C7%D2%C1%CB%C1%D2%C2
http://www.learners.in.th/blogs/posts/447668